"Waste to Wealth" มุ่งเน้นการให้มูลค่าแก่ของเสียหรือวัสดุที่ไม่ได้ใช้ ด้วยวิธีการต่าง ๆ เพื่อลดปริมาณขยะ สร้างโอกาสทางธุรกิจ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นี่คือบางแนวคิดที่สำคัญ
- 1 รีไซเคิล (Recycle) การนำของเสียมาใช้ใหม่ โดยการรีไซเคิลเป็นวิธีที่สามารถลดการใช้วัสดุใหม่ลงได้มาก
- 2 การนำของเสียมาใช้ในการผลิต การให้มูลค่าในกระบวนการผลิตโดยใช้ของเสียเป็นวัสดุหลัก
- 3 การแปลงเป็นพลังงาน การนำของเสียมาใช้ในการผลิตพลังงาน เช่น การเผาไหม้ขยะเพื่อสร้างไฟฟ้า
- 4 นวัตกรรมทางเทคโนโลยี การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อแปลงของเสียให้มีมูลค่า
- 5 การลดขยะทางการบริโภค การลดปริมาณขยะที่สร้างจากการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ
- 6 การสนับสนุนวัฒนธรรม Zero Waste การเปลี่ยนวัฒนธรรมในการใช้ทรัพยากร ลดการทิ้งของเสียให้น้อยที่สุด
การนำแนวคิด "Waste to Wealth" ไปปฏิบัติทำให้เกิดกระบวนการที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ
- "โครงการ Waste to Wealth"
มีหลายโครงการทั่วโลกที่ใช้แนวคิดนี้เพื่อลดปริมาณขยะ สร้างมูลค่า และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ตัวอย่างของโครงการได้แก่: - 1 Recycle Across America (RAA) โครงการนี้สร้างระบบป้ายสีที่ช่วยในการแยกขยะได้อย่างถูกต้อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรีไซเคิลและลดการสร้างขยะ
- 2 The Ocean Cleanup โครงการนี้มุ่งเน้นที่จะลดปริมาณขยะพลาสติกในมหาสมุทร โดยใช้ระบบลำน้ำที่ออกแบบมาเพื่อดักจับขยะพลาสติก
- 3 Zero Waste Scotland โครงการที่มีเป้าหมายในการส่งเสริมวัฒนธรรมที่ไม่มีขยะ โดยการเพิ่มการรีไซเคิลและลดการใช้ของพลาสติก
- 4 Terracycle บริษัทนี้มีโครงการที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมและรีไซเคิลขยะที่มีความซับซ้อน เช่น ขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ง่าย
- 5 E-Waste Recycling Projects โครงการที่เน้นการรีไซเคิลอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อลดการส่งทิ้งของเสียอิเล็กทรอนิกส์
โครงการเหล่านี้เป็นตัวอย่างเล็ก ๆ ของการนำแนวคิด "Waste to Wealth" ไปปฏิบัติในทางต่าง ๆ เพื่อสร้างความยั่งยืนและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
จะดีกว่าหรือไม่? หากขยะเหล่านี้ไม่ถูกตัดสินให้กลายเป็นขยะเร็วเกินไป ทั้งที่มันเคยเป็นและอาจยังเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ามหาศาลอยู่ ด้วยการใช้ “หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน” (Circular Economy) ที่มุ่งใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าและหมุนเวียนทรัพยากรใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่เพียงแค่ลดปัญหาขยะล้น หรือทรัพยากรขาดแคลน แต่ยังสามารถสร้างให้เกิดมูลค่าทางธุรกิจได้ แค่เปลี่ยนความคิดและลงมือทำ
ปัจจุบันประเทศไทยมีขยะจากครัวเรือนกว่า 28 ล้านตัน/ปี หรือเฉลี่ย 1 กก/คน/วัน แต่นำกลับมาใช้ประโยชน์ได้แค่เพียงปีละ 9.6 ล้านตัน ไม่เพียงเท่านั้น วิถีชีวิตแบบใหม่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยิ่งผลักดันให้มีขยะแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งมากขึ้น ปริมาณขยะจึงเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว เกิดเป็นวิกฤตขยะล้นเมือง!
ส่วนหนึ่งเพราะขาดการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่วิกฤตนี้กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก จนคาดกันว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป จะมีขยะหลุดเข้าสู่สิ่งแวดล้อมถึง 700 ล้านตัน
"Waste to wealth" คือแนวคิดหรือกระบวนการที่มุ่งเน้นการนำของเสียหรือวัสดุที่ไม่ได้ใช้ มาใช้ให้เกิดประโยชน์หรือดัดแปลงเป็นทรัพยากรหรือผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่า ซึ่งมีหลายวิธีสามารถนำ "waste to wealth" ไปปฏิบัติ เช่น การรีไซเคิลของเสีย การใช้ของเสียในกระบวนการผลิต หรือการนำเสนอนวัตกรรมเพื่อสร้างค่าจากของเสีย จุดมุ่งหมายคือการลดปริมาณขยะที่ส่งลงไปในพื้นที่ขยะ และสร้างมูลค่าจากวัสดุที่เคยถูกทิ้งไปโดยไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์